***** "ไอ้หมาบ้าคัมภีร์" *****
หวัดดีๆ
คนเรานั้น...มักชอบจมอยู่กับอะไรที่เป็นอยู่อย่างนั้นแหละ ไม่มากไปกว่านั้น
หากเรายึดอะไรซักอย่าง
มันก็ยึดอยู่อย่างนั้นแหละ ไม่เปลี่ยนไปอื่น
ตรงนี้เรียกว่าอุปาทาน
มันเป็นทิฏฐิตัวหนึ่งที่เป็นอัตตาหล่อหลอมมาเป็นเรา
และเราก็จะยึดอยู่เช่นนั้นอย่างไม่จางคลาย ด้วยความเข้าใจว่าจางคลาย
เราแค่เอาเหตุและผลส่วนตัวของเราไปให้นิยามแห่งตรรกะ
ว่าเรานี้ คลายจางไปจากอัตตาต่างๆที่เรายึดไว้นั้น อย่างไม่เหลือหลออะไรอีกแล้ว
เพื่อนข้าคนหนึ่ง
ที่จริงมันก็ไม่เคยจะเจอข้าเท่าไหร่หรอก
นานๆๆเป็นสิบๆปีแล้วที่เคยเจอกันครั้งหนึ่ง
ในกาลแห่งครึ่งร้อยปีไปแล้วนี่ นอกจากวัยเรียนด้วยกันแล้ว เราได้เจอกันไม่เกินสามครั้ง
และสามครั้งนี่แหละ
ที่มันตัดสินทุกอย่างจากมุมมองของมัน ในสิ่งที่ข้าเป็น
ข้ายังเป็นเพื่อนที่มันเป็นและเห็นอยู่อย่างนั้นเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว
จริงอยู่ บางคนนี่ มันไม่เคยเปลี่ยนแปลงอะไรได้เลย ในชีวิตมัน
แต่บางชีวิตนี่ มันไม่ใช่
นักดาบเยี่ยมวรยุทธจากกันสามวัน
จอมยุทธผู้เชี่ยวชาญและปราชญ์เปรื่องชำนาญ
ยามเจอกันย่อมต้องทดสอบวรวุธกันอยู่เสมอ
เพื่อนข้าคนนี้ เขาจอมหลักการ
หลักการที่เป็นตรรกะนิยามที่เขาเฟ้นออกมาจากการจดจำอันยาวนาน
และความเป็นครูบาอาจารย์คน
ทยอยออกจากความคิดและจิตวิญญาณที่เชื่อมั่นโดยไม่เปลี่ยนแปลงอะไรใดๆเลยว่าถูก
ความถูกที่เขามี
โดนข้าทำลายป่นปี้ ไม่มีเหลือและกล่าวต่อไปในตรรกะแห่งตนไม่เป็น
แต่เพราะทิฎฐิอันเป็นอุปาทานที่โดนย้อมลงไปอย่างหนาแน่น
เพื่อนข้าก็เถียงออกไปอย่างข้างๆคูๆชนิดมืดมนในหลักการ
และยิ่งเถียงอย่างไร้หลักการและการประมวลเหตุประมวลผล อย่างผู้อยากเอาชนะ
เขาก็ยิ่งจมลงไปในกระแสที่เคียดแค้นต่อตัวเอง
ที่ความรู้ทั้งหลายที่ตนเองมั่นใจนั้น
มันไม่เหลือความคมที่จะไปเถืออะไรกับของลองคมที่ข้าหยิบยื่นให้เลย
เพื่อนข้ามันก็ยังเป็นเพื่อนข้าที่เข้าใจว่ามันรู้เรื่องต่างๆทุกเรื่องด้วยความถูกของมันอยู่นั่นแหละ
มันไม่ดูว่าข้าไปถึงฝั่งแห่งความเป็นอิสระแล้ว
ทั้งคำพูด ทั้งแนวคิด ทั้งการกระทำ ที่แตกต่างไปจากวิถีเดิมๆ
มันมองไม่เห็นด้วยอัตตาของตัวมันเองที่ยึดมั่นเป็นอุปาทาน
มันต้องถูกซิ เพราะความถูกที่มันยึด ใครผิดไปจากที่มันยึด เป็นผิดหมด
ที่สุด
มันก็ล้มป่วย
ป่วยเพราะความตรอมใจในสิ่งที่คิดว่าใช่...