*** "ก้าวไปเบื้องหน้าด้วยชีวิตเติมเต็มแห่งรอยยิ้ม" ***
ยามเราไม่พอใจใคร ให้หัดตั้งสติ หวลกลับมาคิดบ้างว่า
#หากใครๆเขาไม่พอใจเราบ้างเราจะรู้สึกอย่างไร
ยามเราเพ่งโทษผู้อื่นเขา จากการตัดสินของเรา ให้หัดตั้งสติ หวลกลับมาคิดบ้างว่า
#หากใครๆต่างเพ่งโทษเราบ้างเราจะรู้สึกเช่นไร
คำพูดแย่ๆที่เราชอบพ่นใส่ผู้อื่น โดยไม่นึกถึงว่า อีกฝ่ายเขาจะรู้สึกเช่นไร
#หัดนึกถึงด้วยว่าเวลาใครอื่นเขาพ่นพิษใส่เราเช่นนั้นเราจะโกรธบ้างไหม
หากคิดดีๆอะไรกับใครไม่เป็น ก็พึงหัดอยู่นิ่งๆและยิ้มให้กับกระจกที่อยู่เบื้องหน้าบ้าง
แล้วคิดสิ่งไม่ดีเฮงซวยๆกับไอ้เงาเบื้องหน้านั้น เราอาจได้เห็นมุมมองที่แปลกออกไปจากวิถีชีวิตที่ตนเป็น
มนุษย์คว้ารองเท้ามาสวมเพื่อเดินทางไปได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นที่จะเกิดกับหนังตีน
รองเท้าไม่ได้เสกขวากหนามและหินคมให้มันหายไปไหนนะ..
หัดมองใจเขาใจเราที่จะอยู่ร่วมกัน ธรรมชาติแห่งความสุขง่ายๆ แม้ไม่ปฏิบัติอะไรมากมายนัก ก็คือ
เราไม่ชอบเช่นไร ใครๆเขาก็ไม่ชอบดั่งที่เราเป็นเช่นกัน
เราจึงไม่ควรกระทำสิ่งใดๆต่อใคร ด้วยอัตตาเราเพียงด้านเดียว
คนที่เห็นแก่ตัว มักมองออกไปจากมุมแคบๆแห่งตน เพื่อให้ได้ดั่งใจตน
ชนเช่นนี้ ไม่ค่อยเห็นความเฮงซวยแห่งตนที่ไปพ่นพิษร้ายๆใส่หัวใจใคร
เราทุกคนต่างแบ่งอากาศมาเติมเต็มลมหายใจให้แก่ชีวิตโดยไม่ต้องซื้อ
แต่เราทุกคน ก็มักจะจ่ายค่าตอบแทนด้วยการทำลายอากาศดีๆด้วยความเห็นแก่ตัวของตนกันมากกว่ารักษา
แบ่งปันหัวใจเราให้แก่ผู้อื่นดุจอากาศยามเช้าที่ทุกคนสดชื่นและต้องการ ด้วยการยิ้มให้กับโลกและตนเองเสมอๆ
ทุกข์ภัยอันเลวร้ายเป็นแค่อดีตที่จบไปแล้วและอนาคตยังมาไม่ถึงแค่นั้นเอง อย่าไปใส่ใจมันมากนัก
อยู่กับการตื่นขึ้นมาใหม่ด้วยรอยยิ้ม ที่เช้านี้...