*******" การพรากจากเป็นธรรมดาของกายนอก "*****
ขอสาธุคุณให้มีแต่ความสุขความเจริญ...ธรรมนั้น...มันกระจายได้ด้วยภูมิปัญญาใจ
ใจนั้นที่มีภูมิปัญญา อาศัยประสบการณ์ในการสอดส่องเข้าไปเห็น
เราอธิบายจากความเห็นที่สอดส่องลงไปตามมูลเหตุแห่งสัจธรรม
แม้สัจธรรมที่ชี้ลงไป มันจะเป็นอาการหนึ่งของสมมุติก็ตาม
การพิจารณากายนอกเป็น และเห็นจริงไปตามมูลเหตุแห่งเหตุปัจจัย
มันจะช่วยให้เรานี้ถอดถอนได้ถึงอุปาทานที่เราหลงยึดอุปาทานนี้ เป็นอาการของ อวิชา
แต่อาการแห่งอวิชชานี้ มันเป็นเครื่องอยู่แห่งรูปเราพึงทำความเข้าใจ และพึงมองเห็นหลักสัจธรรม
ตามความเป็นจริง ไม่ใช่เรียนรู้เพื่อที่จะไม่ให้มีอุปาทาน
หรือเรียนรู้เพื่อที่จะไม่ให้มี กิเลส ตัณหา อวิชชา อะไรอย่างนั้น
เรียนรู้อย่างนั้น มันเป็นเปลือกที่แทะลงไปไม่ถึงเนื้อเยื่อ
มันเป็นการเรียนรู้ที่เป็นอัตตาตัวตน
การเรียนรู้เพื่อเอาออก มันเป็นอัตตาทั้งดุ้น
ธรรมนั้นเรียนรู้ เพื่อนำเอามาเป็นช่องว่างให้ใจดวงนี้ยืน
เราเลือกที่จะยืนได้ตรงช่องว่าง ที่เรียกว่า กาลเทศะ
ผู้ที่รู้จักกาลเทศะ ย่อมเป็นผู้ที่มีที่ยืนอย่างสบาย ในช่องว่างที่แสนตีบตันนั้น
สรรพสิ่งทางรูป รส กลิ่น...