*****" คนฉลาดที่สมองกลวง "*****
หวัดดีทุกคน ที่นี่ลมพัดตลอด...
เราลองแหงนหน้ามองไปยังท้องฟ้านั่นซิ..!!
เราเห็นอะไรไหม.. ลองมองขึ้นไปและใคร่ครวญดูให้ดี
เราจะเห็นแต่ความว่างเปล่าที่มีแต่ขอบรั้วแห่งสายตากระทบเมฆ และสีฟ้าของความเวิ้งว้าง
ในความว่างเปล่านั้น เราต่างคาดหวังและคาดหมายจากสิ่งอะไร ในสิ่งที่มันเคว้งคว้างนั่น
และมนุษย์...อาศัยความเวิ้งว้างว่างเปล่าและเคว้งคว้างนั่น มาเป็นที่ตั้งแห่งหัวใจ
เราต่างก็ขออะไรๆ จากความเคว้งคว้างว่างเปล่าและมืดมน
ต่อการที่จะได้มา จากความว่างเปล่าเวิ้งว้างนั้น
เราสร้างพระเจ้ายัดเข้าไปในความว่างนั้น
แล้วต่างนอบน้อมหมอบกราบกับพระผู้เป็นเจ้าในความว่างเปล่าที่แสนจะเคว้งคว้างเวิ้งว้างนั่น
เราหวังอะไร จากสิ่งที่ไม่มีอะไร
ตลกไหม..นี่แหละคือมนุษย์
เราก้มกราบ และต่างคาดหวังจากการขอนั่นนี่ จากรูปปั้น
รูปปั้นที่เป็นงานปฏิมากรรมและงานประติมากรรมนั้น..มันได้ให้อะไรแก่เราเลย
แต่เรา..ก็ยังคงคาดหวังอยู่กับรูปปั้น รูปที่เราต่างเชื่อว่า คงบันดาลความมั่งมีสมบรูณ์พูนสุข ให้แก่ตัวเรา
เราคาดหวังจากวัตถุที่เรามองเห็น สร้างขึ้นมาและตั้งสมมุติเอา ว่ามันให้อะไรๆๆๆต่อเรา
เราจะมั่นคงสมบรูณ์ด้วยสิ่งเหล่านี้
เราตั้งมั่นกับวัตถุอะไรซักชิ้น เพราะเราเชื่อว่า...
มันจะทำให้เราดีขึ้น
มันจะทำให้เราเจริญขึ้น
มันจะทำให้เราร่ำรวยขึ้น
มันทำให้เราแคล้วคลาดจากภัยยันต์อันตราย
ค้าขายดี มีแต่โภคทรัพย์ด้วยอำนาจแห่งวัตถุชิ้นเล็กๆ
นี่..คนโง่เขามักคิดกันเช่นนี้
คนโง่นั้น ต่างคาดหวังกับสิ่งที่มองไม่เห็น และสัมผัสไม่ได้ว่า จะมาช่วยใจดวงนี้ให้ดีขึ้นได้อย่างไร...