***** "ปัญญาที่ซ่อนอยู่ในการงดนอนงดอาหาร" ****
ขอสาธุคุณสวัสดีให้มีแต่ความเจริญ
หลายวันไม่ได้เข้ามาคุยกัน ขอให้มีแต่ความสุขความเจริญกันทุกคน
ถึงวันปีใหม่ไทยแล้ว อากาศยามนี้ร้อน
ระวังใจอย่าไปร้อนตามก็พอ
สมัยหนึ่งหน้าร้อนเช่นนี้แหละ
ข้าพักงดนอน งดอาหารอยู่ในป่า
ถึงวันที่สามที่สี่ มันมักตั้งข้อสงสัยและคำถามว่า
เรามาทำอะไรโง่ๆในป่าเช่นนี้
ทำไมไม่บวชแล้วอยู่สงบๆแบบเป็นสุขๆเงียบๆคนเดียว
อย่างใครเขาที่เขากระทำกัน
ทำไปก็ไม่เข้าใจตัวเอง ทำไมต้องมาลำบากขนาดนี้
แต่บางอย่างมันเหมือนเรียกร้องให้ต้องทำ
เข้าวันที่ห้าที่หก ความหิวความง่วงอะไรนี่ มันหายไป
มันเหลือแต่ความโหย ที่สติพอกำหนดและจับกับมันได้
วันที่เจ็ด มันครบการตั้งสัจจะวาจาไว้
ความหิวทั้งหลายมันก็กลับมาเยือน
ใจเริ่มเฝ้ารอให้ครบตามวันเวลา
วันที่เจ็ดนี่มันรุนแรง
มันเฝ้ารอคอยวันเวลาเพื่อให้จบๆครบๆซะที
มันรอนับวันเวลาของมันทุกๆวัน
เออ..แล้วเข้ามาทรมานกายทำไม ในเมื่อทุรนทุรายกายอยากออก
ข้าเห็นชัดของอาการแห่งใจ ที่มันปรุงด้วยความโหยหิวและดิ้นรน
ผ่านมาหกวัน มันตั้งมั่นอยู่ได้
มาวันที่เจ็ด มันเกิดอาการเชี่ยวกรากแห่งกระแสใจ
ที่มันเฝ้ารอ ว่าเมื่อไหร่จะได้หมดๆวันไปซะที
กระแสเช่นนี้แหละ..เรียกว่ากิเลสดิ้นพราดๆ ดิ้นเพราะโดนขังมานาน
มันจะแสดงอาการของมันเด่นชัด เมื่อเราทรมานตน
เราเป็นเจ้าของอาการแห่งใจไม่ได้เลย
ไม่ว่าจะมีการโยนิโสอย่างไร ใจก็เอามันไม่อยู่
ธรรมชาติแห่งจิตนี่ มันเป็นธรรมชาติของมันเช่นนั้น
มันมีโปรแกรมหวงรูป
มันแสดงออกมาเพื่อรักษารูป
การแสดงออกนี่ เป็นโปรแกรมธรรมชาติ เพื่อกระตุ้นให้เรานี้
กระทำไปตามกระแสของมัน เพื่อความอยู่รอดของชีวิต
เรานี้...