****** "อย่าหลงกลพวกดีแต่ขี้โม้" ******
>> คำถาม : หนักใจเลยเอาความรู้สึกมาจับที่อาการ...แล้วความรู้สึกลูกก็มีความโปรงเบากายและนิ่มมากๆ เลยครับ
เป็นอยู่อย่างนั้น สองสามวันแล้วก็หายไป...แต่ความโปรงโร่งเบาๆ ยังมีอยู่ตลอดจนทุกวันนี้..
บางวันโดนด่าที่ทำงานความรู้สึกเฉยโปร่งๆ เหมือนนเดิม..แต่บ้างวันโดนด่าอีก..รู้สึกอาการขึ้นเลยหายใจก็หยาบด้วย..
แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่หายไปคือความโปรงโล่งนั้น..ลูกได้แค่ดูมันไปเรื่อยๆ ไม่รู้จะต่อสิ่งที่เห็นอยู่อย่างนี้อย่่างไร..
เพราะนั่งสมาธิก็ไม่เคยได้ฌานหรือเข้าสมาธิกับเข้าได้สักที่...ก็ได้แต่นั่งดูอาการโล่งๆ นั้นลั่มไป..แบบว่าไปไม่เป็น..
จึงขอความเมตตาจากพระอาจารย์ช่วยอนุเคราะห์ชี้ทางสว่างให้ด้วยครับ...ขอกราบสาธุครับ
<< พระอาจารย์ : เป็นอุปาทานอย่างหนึ่งของอาการแห่งจิต
และเป็นอุปกิเลสอย่างหนึ่ง ที่ขวางกั้นมรรคผล
สิ่งที่เป็น มันเป็นอาการของจิตอาการหนึ่งเท่านั้น
เพียงแต่เจ้าของเข้าไปยึดอาการที่เป็น มันไม่เแก้ปัญญาแก้อวิชชาอะไร
พุทธศาสนา ไม่ใช่จมอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งแล้วจะตีบตันอยู่แค่นั้น
อีกัวน่าที่นี่ มันก็มีความเป็นอยู่ สงบ นิ่ง โปร่งเบาสบาย
ตบหัวมัน มันยังไม่สนใจอะไร...