**** "อยู่กับความจริง มันมีหนทางผ่านพ้นทุกข์" ****
ชีวิตนั้นอยู่กันไม่นาน เราอย่าได้เอาเวลาแห่งชีวิตไปละเลงกับตัณหาแห่งตนมากนักเลย
หัดยับยั้งช่างใจตนเองซะบ้าง อยู่อย่างมีความสุขสงบด้วยความพอเพียงที่ตนมี
การรู้ธรรมมากมาย ใช่ว่าจะทำให้ใครเป็นคนดี คนมันยังมีทิฏฐิ
ความเข้าใจในธรรมทั้งหลายนี่ซิ มันจึงพอจะเอาตัวรอดได้
ความเข้าใจในธรรม หากแช่อยู่ในความเข้าใจนั้น มันก็ไม่ใช่เรื่องดีอีก
เข้าใจธรรมแล้วให้กลับมาอยู่กับความเป็นจริง
ชินเชากล่าวว่า
" กายเป็นเหมือนต้นโพธิ
ใจเป็นเหมือนกระจกใส
หมั่นเช็ดหมั่นถูกระจก
ฝุ่นที่ไหนจะมาจับเกาะ
ท่านเหว่ยหล่าง ท่ามมาเสริมว่า
" เดิมทีต้นโพธิ์ก็ไม่มี
เดิมทีกระจกใสก็ไม่มี
เมื่อไม่มี กระจกและต้นโพธิ์
ฝุ่นที่ไหนจะมาจับเกาะได้เล่า
นี่..อะไรประมาณนี้ .
ผู้ที่รู้ธรรมที่สูงขึ้น เมื่อเข้าใจกันเป็นเช่นนี้ ต่างก็จะจมแช่อยู่กับความว่างเปล่า
เพราะสรรพสิ่งทั้งหลาย ล้วนว่างเปล่า เป็นสุญญตา เอามายึดมาตีค่าอะไรไม่ได้เลย
การยึดแช่กับแนวปรัญญาเช่นนี้ ดูเหมือนจะเป็นการออกจากทุกข์
คือทำความว่างเปล่ากับสิ่งที่มี ด้วยความรู้ยิ่งว่า มันไม่ได้มีมาแต่ก่อนเก่า
ภาวะนี้ก็หลงไปอีกทางหนึ่งเช่นกัน
การเข้าไปรู้ความเป็นจริงแห่งเหตุ...